เครดิตบูโรคือบริษัทที่เก็บรวบรวมข้อมูลด้านเครดิตส่วนบุคคล และขายให้กับผู้ให้กู้ เจ้าหนี้ และผู้บริโภคในรูปแบบของรายงานเครดิต ในขณะที่มีสำนักงานสินเชื่อหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาผู้บริโภคส่วนใหญ่คุ้นเคยกับสามยักษ์ใหญ่ ได้แก่ Equifax, Experian และ TransUnion สำนักงานสินเชื่อที่ใหญ่ที่สุดทำมากกว่าแค่รวบรวมรายงานข้อมูลสินเชื่อผู้บริโภค พวกเขายังให้บริการโซลูชั่นมากมายที่ช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจได้ดีขึ้น

เครดิตบูโรเอาข้อมูลเรามาจากไหน

เครดิตบูโรพึ่งพาอาศัยข้อมูลที่ถูกป้อนจากธนาคารและธุรกิจอื่นๆ ในการให้ข้อมูลผู้บริโภค บริษัทหลายแห่งที่คุณทำธุรกิจด้วยจะส่งอัปเดตสถานะในแบบเปิดอยู่เป็นประจำ ซึ่งเครดิตบูโรเองก็เอาข้อมูลจากส่วนนี้มาใช้ด้วยเช่นกัน เครดิตบูโรจะใช้แหล่งข้อมูลที่แตกต่างกันในการรับข้อมูล โดยทั่วไปพวกเขาจะไม่แบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน ดังนั้นรายงานเครดิตของคุณอาจแตกต่างกันเล็กน้อยในบางสำนักงาน บางครั้งก็อาจไม่มีเลย

คะแนนเครดิตของคุณมีผลต่อคุณอย่างไร

ในสมัยนี้หากคุณไปติดต่อธุรกิจส่วนใหญ่ พวกเขาจะทำการตรวจสอบรายงานเครดิตของคุณ ธนาคารตรวจสอบรายงานเครดิตของคุณก่อนอนุมัติบัตรเครดิต และสินเชื่อทั้งหลาย หรือเจ้าของบ้านจะตรวจสอบรายงานเครดิตของคุณเพื่อตัดสินใจว่าจะให้คุณเช่าหรือไม่ จึงบอกได้ว่ารายงานเครดิตนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณหลายส่วน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือข้อมูลที่ถูกต้อง พยายามรักษาเครดิตที่ดีเอาไว้

สถานะของบัตรเครดิตบูโร

เราสามารเช็คสถานะเครดิตบูโรได้ง่ายๆ จากรายงานที่รวมประวัติการชำระหนี้ย้อนหลัง 36 เดือน โดยจะมีเลขรหัสกำกับบอกไว้อยู่ ซึ่งจะมีความหมายแตกต่างกันออกไปดังนี้

1.รหัส 10 หมายความว่าบัญชีนี้ปกติดี

2.รหัส 11 หมายความว่าบัญชีนี้ถูกปิดเรียบร้อย

3.รหัส 12 หมายความว่าอยู่ระหว่างการพักหนี้

4.รหัส 20 หมายความว่ามีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน

เราสามารถสร้างเครดิตที่ดีได้อย่างไร

1.จ่ายบิลตามกำหนดเวลาอย่างต่อเนื่อง การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ค่าเช่า ชำระหนี้ ค่าสาธารณูปโภค และค่าใช้จ่ายรายเดือนอื่นๆ ผู้ให้กู้มักจะพิจารณาพฤติกรรมที่ผ่านมา เพื่อใช้เป็นคาดการณ์ถึงพฤติกรรมในอนาคต โดยทั่วไปมักจะหลีกเลี่ยงการให้กู้ยืมเงินกับบุคคลที่มีประวัติการชำระเงินที่ไม่ตรงกำหนด

  • 2.รักษาเครดิตที่ไม่ได้ใช้ในจำนวนที่เหมาะสม ดูอัตราส่วนการใช้เครดิตที่ 30% หรือต่ำกว่า เป็นตัวบ่งชี้ว่าเราสามารถจัดการเครดิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • 3.ใช้บัตรเครดิตเมื่อจำเป็นเท่านั้น หรือพยายามให้มีการสอบถามเครดิตให้น้อยที่สุด
  • 4.ตรวจสอบรายงานเครดิตเป็นประจำทุกปี โดยโต้แย้งข้อผิดพลาดที่ทำให้รายงานของคุณเสียหาย

หนึ่งในประเด็นที่ใหญ่ที่สุดคือความสอดคล้องเป็นกุญแจสำคัญ สำหรับผู้ที่พยายามปรับปรุงคะแนนเครดิตของพวกเขาให้ดีขึ้น แต่ต้องทราบว่าคะแนนเครดิตจะไม่จะดีขึ้นในชั่วข้ามคืน มันจำเป็นต้องอาศัยแผนการระยะ ที่จะค่อยๆ ฟื้นฟูชื่อเสียงเครดิตผู้กู้อย่างค่อยเป็นค่อยไป

จะทำอย่างไรหากข้อมูลแสดงผลไม่ถูกต้อง

บริษัทจะต้องให้สำเนารายงานของคุณหากพวกเขามี (ในบางกรณีอาจมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสร้างรายงาน) บ่อยครั้งที่คุณจะได้รับรายงานฟรีทุกๆ 12 เดือน คุณมีสิทธิ์ที่จะโต้แย้งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในรายงานของคุณกับผู้ให้ข้อมูล ตามกฎข้อบังคับ Fair Credit Reporting Act บริษัทจะต้องดำเนินการตรวจสอบให้ฟรี เพื่อแก้ไข้ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในรายงาน สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการแจ้งไปยังสถานบันการเงิน หรือธนาคารเกี่ยวข้อง เพื่อกดดันให้ทางธนาคารเข้าไปตรวจสอบกับทาบเครดิตบูโรโดยตรง ซึ่งจะเป็นวิธีที่สะดวกกว่า

อีกวิธีหนึ่งคือการติดต่อเข้าไปยังเครดิตบูโรโดยตรง ด้วยการยื่นแบบฟอร์มคำขอโต้แย้ง อย่างที่กล่าวข้างต้น ทางบริษัทจะต้องดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากมีการโต้แย้งเกิดขึ้น อาจจะต้องยื่นเรื่องไปดำเนินการต่อที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต (Committee for the Protection of Credit information) ซึ่งมันอาจจะดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่เราควรปกป้องผลประโยชน์ตนเองให้ถึงที่สุด