ธนาคารกรุงศรี เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย ให้บริการด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก ผ่านช่องทางการให้บริการในประเทศไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์-บริการทางการเงินหลากหลายประเภทสำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม ประกอบด้วยพื้นที่ในการให้บริการมากถึง 695 สาขาทั่วประเทศ และสาขาในต่างประเทศ จำนวน 3 สาขา ได้แก่ ฮ่องกง เวียนนา สุวรรณเขต ตู้กดเงินอัตโนมัติ 6,250 เครื่องบริษัท
ประวัติการก่อตั้ง
ธนาคารกรุงศรีอยุธยาก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2488 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศไทย ธนาคารเปิดทำการเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2488 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2513 สำนักงานใหญ่ของธนาคารถูกย้ายไปที่ถนนเพลินจิตพร้อมกับรับมอบตราครุฑมา ต่อมาในวันเดียวกัน ธนาคารได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อที่จะแปรสภาพให้อยู่ในฐานะบริษัทจำกัดมหาชน โดยใช้เครื่องหมายว่า “BAY” ในตลาดหลักทรัพย์
เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2550 ธนาคารกรุงศรี-จีอีแคปปิตอล ได้เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ กลุ่ม “GE Capital” กับ “กลุ่มรัตนรักษ์” กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคาร โดยมีสัดส่วนการลงทุนใน BAY คิดเป็นประมาณ 33% และ 25% ตามลำดับ ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2555 จีอีประกาศขายหุ้น 7.6% ทำให้สัดส่วนในการเป็นเจ้าของลดลงเหลือ 25.33% เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556 MUFG Bank จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFG) เป็นกลุ่มธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทนที่กลุ่มจีอี
หลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายช่วงยุคสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลายปี พ.ศ. 2543 รวมถึงการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มจีอีประเทศไทย เพื่อที่จะให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นหนึ่งในสามธนาคารชั้นนำของประเทศไทย ทำให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาวางแผนที่จะรวมบริษัทย่อยเข้าด้วยกัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2557 ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้เปลี่ยนชื่ออังกฤษจาก Bank of Ayudhya เป็น “Krungsri” (ย่อมาจากคำว่ากรุงศรีอยุทธยา) อย่างที่ทุกคนที่คุ้นเคยกันดี
การพัฒนาที่สำคัญของธนาคารศรี
- 1.เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2550 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา-จีอีมันนี่ บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลกได้เข้าเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
- 2.เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 กรุงศรีได้เข้าซื้อ บริษัท จีอีแคปปิตอลออโต้ลีส จำกัด มูลค่า 78.01 พันล้านบาท พร้อมสินเชื่อคงค้าง 75.28 พันล้านบาท ภายหลังต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท อยุธยาแคปปิตอลออโต้ลีส จำกัด (AYCAL)
- 3.เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2552 กรุงศรีได้เข้าซื้อกิจการของ AIG Retail Bank PCL (AIGRB) กับ บริษัท AIG Card (ประเทศไทย) มูลค่าในการซื้อขายอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท การซื้อกิจการของกรุงศรีทั้งสองกิจการส่งผลให้สินทรัพย์ของธนาคารเพิ่มขึ้น 32.8 พันล้านบาท สินเชื่อ 21.9 พันล้านบาท เงินฝาก 18.6 พันล้านบาท
- 4.เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2552 ธนาคารแห่งโตเกียว – มิตซูบิชิยูเอฟเจ จำกัด สาขากรุงเทพ ประสบความสำเร็จในการรวมเข้ากับกรุงศรีอยุธยาตามนโยบาย One Presence ของธนาคารแห่งประเทศไทย กรุงศรีได้ออกหุ้นสามัญจำนวน 1,281,618,026 หุ้นให้แก่ BTMU เพื่อการโอนกิจการของ BTMU สาขากรุงเทพ
- 5.13 กันยายน พ.ศ. 2559 กรุงศรีเข้าซื้อบริษัท “หัตถาจักร์“ ซึ่งเป็นไมโครไฟแนนซ์ชั้นนำในประเทศกัมพูชา เพื่อเข้ามาเป็นบริษัทในเครือกรุงศรีกรุ๊ป การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นอีกก้าวในการขยายสู่ระดับภูมิภาค เป็นการเปิดโอกาสให้เจริญเติบโตโดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งในธุรกิจธนาคารเพื่อรายย่อย
- 6.27 มีนาคม พ.ศ. 2560 กรุงศรีจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่คือ “บริษัท กรุนด์ศรีฟิโนเวต”
- 7.27 กันยายน พ.ศ. 2560 กรุงศรีได้รับการยอมยกให้เป็นธนาคารที่มีความสำคัญในระดับประเทศ ตามการประเมินของธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้กรุงศรียังมีบทาทในการหนุนเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกด้วย